Project Glass Coating Mercedes Benz W211 โดยความร่วมมือระหว่าง TS Motor Auto Painting Professional กับ WASH VIP
งาน Glass Coating ที่เราได้ดูและศึกษามาเป็นระยะเวลายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ หรือกระทั่้งนำรถไปทำ Glass Coat ตามบริษัทต่างๆมาหลายที่ จนมาลงตัวที่ระบบ Glass Coating ?ของ WASH VIP ซึ่งเป็นสูตรการทำ Glass Coating จากการ Development ของตัวบริษัทเอง ให้ได้ Fomula ที่ลงตัวที่สุดกับลูกค้าของเรา
ก่อนทำ Glass Coat เราจำทำการขัดลบรอยขีดข่วน Swirl บางๆตามผิวรถ ปรับสภาพผิวรถให้พร้อมก่อนการลง Glass Coat ซึ่งน้ำยาทั้งหมด จะเป็นน้ำยาระบบ Water Based ไม่ทำปฎิกิริยา กับ ระบบการยึดติดของ Glass Coat
ทีนี้ ลองมาทำความรู้จักกับระบบการทำ Glass Coating ซึ่งจากความเข้าใจของทีมงาน TS Motor เองนั้น ผลลัพธ์ของ Glass Coating ที่เราได้ใช้ ทำไมมันถึงให้ผลลัพธ์ที่แปลกตามากกว่า Glass Coating ตัวอื่นๆที่เคยเห็นมา ลองมาดูเรื่อง Fundamental ของระบบพ่นสีกันก่อนเพื่อจะได้เข้าใจกัน
จาก Diagram ด้านบน สังเกตุได้ว่า ผิวของสีรถนั้น ที่ผ่านระบบ 2K หรือกระทั่งระบบโรงงานเอง การทับถมของชั้นสีต่างๆไม่ได้เป็นไปอย่างเรียบเหมือนกระจก แต่เนื่องจากอนุภาคของสีที่มีขนาดเล็กมากๆ ทำให้เรามองไม่เห็นว่า มันมีความพรุนในตัว Pigment เอง หรือตัว Clear Coat เอง เนื่องจากเราจะมองเรียบเสมอกันไปตลอดชั้นแนวสี
แต่ถ้ามีความเข้าใจว่า การพ่นสี ไม่ว่าจะเป็นสีระบบโรงงาน หรือระบบพ่นสีรถยนต์ แบบ 2k นั้น การปล่อยเนื้อสี และ เนื้อของชั้นแลกเกอร์จะถูกพ่นออกมาในลักษณะเสปรย์ โดยผ่าน หัว Nozzle (จากรูปด้านบน) ของปืนพ่นสีออกมา การทับถมของละอองสี หรือละอองของแลกเกอร์ ทำให้เกิดชั้นละอองทับถมกัน สร้างชั้นฟิล์มขึ้นมาบนผิวรถยนต์
รูป Diagram ด้านบน คือภาพจำลองของผิวรถยนต์ ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วระดับนึง สังเกตุได้ว่า ผิวของชั้น Clear Laquer ไม่ได้เป็นเส้นตรงอย่างที่กล่าวมาก่อนหน้านี้
การขัดสีรถยนต์ก่อนการทำ Glass Coat คือการตัด Edge หรือมุม ของผิว Surface รถยนต์จากรูป Diagram ให้ทู่ลง รวมถึงการกำจัดสิ่งปฏิกูลที่เกาะติดผิวรถยนต์ออก เมื่อความหยาบของผิวรถยนต์มีน้อยลง ทำให้เกิดความเงาที่สูงขึ้น?การลบรอยด้วยกระดาษทราย สำหรับรอยขีดข่วนที่ยังไม่ถึงชั้นสี ทำให้ชิ้นงานออกมาเป็นสีด้าน เนื่องจากความคมของกระดาษทราย ได้ไปสร้าง Edge ไว้มากมาย เมื่อทำการปัดสีด้วยน้ำยาขัดสีรถยนต์ คือการตัด Edge ต่างๆให้ออกไป ความเงาจึงกลับมาเหมือนเดิม
ผลลัพธ์ของการทำ Glass Coating
ต้องกล่าวก่อนเลยว่า ไม่มีเทพท่านใด ที่จะสามารถพ่นสีแล้วตัด Cross Section ออกมาได้เรียบเป็นเหมือนกระจกได้ ฉันใดก็ฉันนั้น อู่พ่นสีรถยนต์ ที่เลือกใช้แลกเกอร์ที่มีคุณภาพดี นั้นคือเกรดของ เรซิ่นที่อยู่ในเนื้อของแลกเกอร์ ว่าสามารถฟอร์มตัวแล้วกระจากความใสสว่างออกมามากน้อยเพียงใด การทำ Glass Coating คือการตอบโจทย์ขั้นที่ 2 ของความเงาของรถยนต์ เมื่อเนื้อแท้ของชั้น Clear Coat มาได้สุดยอดของเทคโนโลยีการพ่นสี 2 K แล้ว ความเงาที่เพิ่มขึ้นจะได้มาจากความเรียบที่มากขึ้นบนชั้นผิวสี
หน้าที่ของ Glass Coating ที่เราเลือกใช้ คือการอุดรูพรุนของชั้นผิวสีด้วยนาโนเทคโนโลยี ที่มีความละเอียดเพียงพอกับการซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวสีรถยนต์ (ตามรูปด้านบน) ความเป็นนาโนเทคโนโลยีนั้น โมเลกุลที่ยึดตัวเข้าชั้นผิวสี โดยน้ำยา Glass Coating ที่ได้ทำไป เราจะทำการอัดน้ำยาโดยเครื่อง Double Action ให้น้ำยาซึมลึกลงสู่ผิวสีได้มากที่สุด เมื่อ Glass Coat ได้ Set ตัวแข็งขึ้นมา จะอยู่ในสภาพ Solid Stage
จากรูปด้านบน คำว่า High Definition Paint เป็นคำตอบจากการที่ได้ทดสอบ Glass Coating มามากมายหลายคัน ว่าไม่มีน้ำยาสูตรใดที่สามารถสร้างความเป็น High Definition แบบนี้ได้ ทั้งระบบพ่นเองก็ดี คุณสมบัติที่ได้มาจะแตกต่างกันกับระบบ Glass Coating นี้อย่างสิ้นเชิง
จากรูปด้านบน ของ W211 คันนี้ คำว่า high definition คือความคมชัด เมื่อแสงตกกระทบชิ้นงาน และสะท้อนรูปลักษณ์ของต้นไม้ออกมาได้รายละเอียดที่มากที่สุด
ทำไม?
คำตอบอยู่ด้านบนทั้งหมดครับ เมื่อผ่านการทำ Glass Coat ตามขั้นตอนทั้งหมดมา ผิว Surface ของชิ้นสีรถยนต์จะได้ความเรียบขั้นเทพเกินกว่าเทคโนโลยีพ่นสีจะมีได้ เมื่อผิวชิ้นงานเรียบเสมอแบบสุดๆแล้วนั้น เหลี่ยมโค้ง มุมของตัวรถยนต์ จะทำหน้าที่เหมือนเลนส์แว่นขยาย สะท้อนลึกไปสู่ผิวชั้น Pigment เมื่อสังเกตุที่ตัวรถก่อนและหลังทำแล้วจะพบว่า สีรถเปลี่ยนไป